หนุ่มโคลอมเบียสุดหื่น ล่วงละเมิดทางเพศเด็กเกือบ 300 คน

ชายชาวโคลอมเบียผู้ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศเด็กเกือบ 300 คน ถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลากว่า 60 ปี หลังจากเขาถูกจับได้เมื่อปีก่อน และยอมรับสารภาพผิด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 14 ก.พ. 2562 ว่า ผู้พิพากษาศาลเมืองบาร์รันกีลา ในประเทศโคลอมเบียพิพากษาให้นาย ฮวน คาร์ลอส ซานเชซ ลาโตร์เร อายุอยู่ในช่วง 30 ตอนปลาย จำคุกเป็นเวลา 60 ปี ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็ก โดยเขายอมรับสารภาพก่อนหน้านี้ว่า มีเด็กหญิงและเด็กชายตกเป็นเหยื่อของเขาถึง 276 คน ระหว่างปี 2550-2551

นายซานเชซถูกจับกุมตัวได้ที่ประเทศเวเนซุเอลาเมื่อปีก่อน หลังหลบหนีการจับกุมนานถึง 5 ปี โดยในการพิจารณาคดีเมื่อวันพฤหัสบดี อัยการบอกกล่าวในศาลว่า นายซานเชซเข้าหาเหยื่อผ่านทางโลกออนไลน์ จากนั้นจึงนัดพบกันที่ศูนย์การค้าต่างๆ โดยเสนอเงินเพื่อแลกกับการทำกิจกรรมทางเพศ และหากเหยื่อปฏิเสธ เขาก็มักใช้กำลังทำร้าย

นายซานเชซยังใช้นามแฝงว่า ‘Big Bad Wolf’ เผยแพร่รู้ภาพและคลิปวิดีโอการล่วงละเมิดทางเพศเหยื่อของเขาลงบนโลกออนไลน์ด้วย ขณะที่ตำรวจเชื่อว่านายซานเชสอาจก่ออาชญากรรมอื่นๆ ในเวเนซุเอลาอีก ก่อนที่เขาจะถูกจับกุมตัวที่เมือง มาราไคโบ และถูกส่งตัวกลับโคลอมเบียในเดือนกันยายน 2561

Image result for หนุ่มโคลอมเบียสุดหื่น ล่วงละเมิดทางเพศเด็ก

ชาวเวเนซุเอลานับพันไหลทะลักเข้าโคลอมเบีย

ชาวเวเนซุเอลาที่สิ้นหวังกับการใช้ชีวิตในประเทศของตน ยังคงไหลทะลักข้ามพรมแดนไปยังโคลอมเบียอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รัฐบาลโคลอมเบียเตือนผู้นำเวเนซุเอลาให้เตรียมรับผิดชอบกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมา

ชีวิตความเป็นอยู่ที่แร้นแค้น ทั้งอาหารขาดแคลน ขณะที่ไฟฟ้าและน้ำประปาก็ไม่มีใช้ทำให้ชาวเวเนซุเอลาหลายพันคน พยายามฝ่าแนวกั้นพรมแดน ปีนขึ้นไปบนตู้คอนเทนเนอร์และรถบรรทุก ที่เจ้าหน้าที่เวเนซุเอลานำมากั้นไม่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมหลายร้อยตันจากต่างชาติ นำโดยสหรัฐฯ ที่จะมาจากสะพานข้ามแม่น้ำฝั่งโคลอมเบียเข้ามายังประเทศ

ชาวเวเนซุเอลานับพันไหลทะลักเข้าโคลอมเบีย

ขณะที่สถานการณ์ในเวเนซุเอลาเลวร้ายลงทุกขณะ ประชาชนจึงไหลทะลักไปหางานทำในประเทศเพื่อนบ้าน

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองโคลอมเบียเตือน ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลาจะต้องรับผิดชอบกับผลที่จะตามมา จากการเคลื่อนย้ายของประชากร ขณะที่จำนวนชาวเวเนซุเอลาที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้สะพานซิมอน โบลิวาร์ อาจรับน้ำหนักไม่ไหวและเสี่ยงพังถล่มได้

นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจในเวเนซุเอลา มีชาวเวเนซุเอลาหลายล้านคนแล้วที่ไหลทะลักเข้ามาหางานทำในโคลอมเบีย เนื่องจากตอนนี้ขาดแคลนทั้งอาหารและยารักษาโรค

ทหารเวเนซุเอลานับร้อยหนีไปโคลอมเบีย

ทหารเวเนซุเอลากว่าร้อยคนแปรพักตร์ หลังจากเหตุปะทะนองเลือดระหว่างกองทัพและพลเรือนเวเนซุเอลาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะสหรัฐ ฯ และฝ่ายค้านซึ่งนำโดยนายฮวน กุยโด พยายามขนส่งอาหารและยาข้ามพรมแดนเข้าไปให้ความช่วยเหลือ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (23 ก.พ.) ฝ่ายค้านของเวเนซุเอลาซึ่งนำโดยนายกุยโด ผู้ประกาศตนเป็นรักษาการประธานาธิบดี ตั้งใจที่จะขนส่งอาหารและยาซึ่งจัดหาโดยสหรัฐฯ เข้าไปในประเทศโดยสันติ ผ่านพรมแดนที่ติดกับโคลอมเบียและบราซิล แต่นายนิโกลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ส่งกองกำลังทหารไปสกัดไว้

ความพยายามของชาวเวเนซุเอลาที่จะเดินทางข้ามพรมแดนไปขนอาหารและยากลับมา นำไปสู่การปะทะนองเลือดในที่สุด โดยทหารยิงใส่ประชาชนด้วยกระสุนจริงและกระสุนยาง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย

การต้องต่อสู้ปะทะกับชาวเวเนซุเอลาด้วยกันเองเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ทหารหลายคนตัดสินใจหนีไปยังโคลอมเบีย และหลายคนก็แสดงความกังวัลต่อความปลอดภัยของครอบครัวที่พวกเขาทิ้งไว้เบื้องหลัง

ในการสัมภาษณ์พิเศษกับ โอร์ลา เกียร์รัน ผู้สื่อข่าวบีบีซี ทหารเวเนซุเอลาวัย 23 ปีคนหนึ่งบอกว่า กังวลว่ากองกำลังที่ภักดีต่อนายมาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา อาจ “ทำร้ายครอบครัวผม” แต่ก็บอกว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดที่เขาจะทำได้

กลุ่มทหารผู้แปรพักตร์ให้สัมภาษณ์บีบีซีโดยไม่เปิดเผยชื่อจริง

ว่ากันว่า มีทหารมากกว่าร้อยคนแล้วที่แปรพักตร์ โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นระหว่างเหตุปะทะรุนแรงเมื่อวันเสาร์

ที่จุดข้ามพรมแดนหลายแห่ง กองทัพเวเนซุเอลายิงแก๊สน้ำตาใส่อาสาสมัครและผู้ประท้วงที่เผาด่านของกองทัพเวเนซุเอลา และโยนหินใส่ทหารและตำรวจควบคุมฝูงชน

กลุ่มทหารแปรพักตร์ซึ่งรวมตัวกันอยู่ที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองคูคูตา ประเทศโคลอมเบีย เล่าให้บีบีซีฟังถึงเหตุผลที่พวกเขาตัดสินใจหันหลังให้กองทัพเวเนซุเอลา

“มีกองทหารมากมายที่ต้องการทำเช่นนี้ และนี่จะทำให้เกิดผลกระทบแบบโดมิโน จะมีผลกระทบอย่างมากต่อกองกำลังทหาร” ทหารชายวัย 29 ปี กล่าว พร้อมกับบอกว่า ทหารเหนื่อยแล้ว และพวกเขาไม่สามารถอยู่อย่างเป็นทาสได้ต่อไป และพวกเขากำลังปลดแอกตัวเอง

ทหารหญิงคนหนึ่งบอกว่า สถานการณ์เมื่อวันเสาร์ “ตึงเครียด” และบอกว่า “ฉันคิดว่า ฉันไม่สามารถทำร้ายคนของฉันเองได้”

“ลูกสาวฉันยังอยู่ในเวเนซุเอลา และนั่นทำให้ฉันเจ็บปวดที่สุด แต่ฉันทำเช่นนี้เพื่อลูก มันยากเพราะฉันไม่รู้เลยว่า พวกเขาจะทำอะไรกับลูก”

ทหารอีกคนหนึ่งบอกว่า เขารู้สึกเจ็บปวดเมื่อต้องเห็นชาวเวเนซุเอลาบนท้องถนน ต้องต่อสู้เพื่อสิ่งของเพื่อการช่วยเหลือ

โอร์ลา เกียร์รัน ระบุว่า เธอได้พบกับกลุ่มทหารกลุ่มนี้หนึ่งวันหลังจากพวกเขาทิ้งอาวุธ และเดินทางมาโคลอมเบีย บางคนดูยังตกตะลึงจากเหตุการณ์เมื่อสุดสัปดาห์ ที่กองกำลังเวเนซุเอลายิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่คนเวเนซุเอลาด้วยกันเอง

บาทหลวงผู้ต้อนรับพวกเขาเข้ามาพักพิงในโบสถ์เล่าว่า หลายคนมาพร้อมกับอาการบาดเจ็บ ผู้แปรพักตร์บอกว่า พวกเขาหนีออกมาเพราะว่า บ้านเกิดของพวกเขาต้องการการเปลี่ยนแปลง และลูกของพวกเขาก็ต้องการอาหาร ทหารเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารชั้นผู้น้อย บอกว่า ทหารระดับผู้บังคับบัญชายังจงรักภักดีต่อ ปธน.มาดูโร อยู่ แต่ทหารชั้นผู้น้อยกำลังหันไปให้ความศรัทธาต่อ นายกุยโด

กว่า 50 ประเทศแล้ว ให้การยอมรับนายกุยโดในฐานะผู้นำเวเนซุเอลา เขาเรียกร้องให้ประเทศอื่น ๆ พิจารณา “ทุกมาตรการ” ที่จะโค่นล้มนายมาดูโร

ด้าน นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่า วันของนายมาดูโรในฐานะประธานาธิบดีกำลังจะสิ้นสุดแล้ว

คาร์บอมถล่มโคลอมเบีย ตายแล้วอย่างน้อย 10 เจ็บครึ่งร้อย

เกิดเหตุระเบิดรถยนต์หรือคาร์บอมขึ้นที่ในกรุงโบโกตา เมืองหลวงของประเทศโคลอมเบีย ด้านหน้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเมือง เมื่อเวลาประมาณศูนย์ 9.30 น. ของวันที่ 17 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 รายและได้รับบาดเจ็บมากกว่า 50 คน

Image result for คาร์บอมถล่มโคลอมเบีย

ทางการเผยว่ารถคันดังกล่าวได้พุ่งชนจุดตรวจเข้ามายังพื้นที่ด้านในของโรงเรียน ก่อนที่คนขับซึ่งมีรายงานว่าเป็นชายวัย 57 ปีจะจุดระเบิดรถขึ้น แรงระเบิดทำให้กระจกของอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ใกล้เคียงแตกกระจัดกระจาย อย่างไรก็ดีจนถึงขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดดังกล่าว

ด้านประธานาธิบดีโคลอมเบียระบุว่า เหตุระเบิดครั้งนี้เป็นการก่อการร้ายที่บ้าคลั่งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปราศจากอาวุธ โดยเขาได้สั่งการให้ตำรวจและกองทัพควานหาตัวผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำตัวมารับโทษแล้ว เพราะโคลอมเบียจะไม่ยอมแพ้ต่อกลุ่มก่อการร้ายแต่เราจะเอาชนะมัน เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ข้อยกเว้นแต่อย่างใด

Image result for คาร์บอมถล่มโคลอมเบีย

ฝ่ายสอบสวนระบุตัวชายคนขับรถว่าคือนายโฆเซ อัลเดอมาร์ โรจาส์ โรดริเกซ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต โดยรถที่เขาใช้ก่อเหตุคือรถนิสสันเอสยูวีที่มีการบรรทุกวัตถุระเบิดหนัก 80 กิโลกรัมมาด้วย ซึ่งระเบิดชนิดนี้มักจะถูกใช้โดยกองกำลังติดอาวุธของโคลอมเบียในอดีต

ด้านกระทรวงกลาโหมโคลอมเบียออกแถลงการณ์ระบุว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิต 10 ราย 9 รายเป็นนักเรียนของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อีก 1 รายคือคนร้าย ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 54 คน

เวเนซุเอลา” ข้ามไป “โคลอมเบีย” อีกครั้ง หลังเปิดพรมแดน

ชาวเวเนซุเอลาข้ามพรมแดนไปยังโคลอมเบียอีกครั้งเพื่อซื้ออาหารและสิ่งของจำเป็น หลังมีการเปิดชายแดนอีกครั้งหลังปิดไปนาน 4 เดือน

ชาวเวเนซุเอลาหลายพันคนข้ามพรมแดนไปยังประเทศโคลอมเบียอีกครั้งเพื่อซื้ออาหาร ยา และสิ่งของจำเป็น หลังมีการเปิดชายแดนระหว่างทั้งสองประเทศอีกครั้งหลังจากที่ก่อนหน้านี้ปิดไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ตามคำสั่งของประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา เพื่อไม่ให้นายฆวน กวัยโด ผู้นำฝ่ายค้าน สามารถนำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่มีสหรัฐสนับสนุน เข้าสู่ประเทศได้

Image result for ชาว “เวเนซุเอลา” ข้ามไป “โคลอมเบีย” อีกครั้ง หลังเปิดพรมแดน

โดยตอนนี้ประเทศเวเนซุเอลากำลังขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานอย่างหนักซึ่งเป็นผลพวงจากวิกฤตทางเศรษฐกิจในประเทศที่ดำเนินมานานหลายปี ทำให้ชาวเวเนซุเอลาต้องไปหาซื้อจากโคลอมเบียแทน นอกจากนี้นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมาก็มีชาวเวเนซุเอลาอพยพหลบหนีออกจากประเทศแล้วมากกว่า 4 ล้านคน

ประธานาธิบดีมาดูโรได้สั่งปิดชายแดนติดกับโคลอมเบีย บราซิล และเกาะกือราเซา เพราะฝ่ายค้านเตรียมที่จะนำความช่วยเหลือจากต่างชาติเข้าสู่ประเทศ ที่ประธานาธิบดีมาดูโรกล่าวประณามว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่จะล้มเขาลงจากอำนาจ แต่แล้วเขาก็ประกาศเปิดชายแดนติดกับบราซิลเมื่อเดือนก่อน ตามด้วยเปิดชายแดนติดกับโคลอมเบียในครั้งนี้

ทหารเวเนฯปิดสะพานเชื่อมโคลอมเบีย ปัดรับความช่วยเหลือ

ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา ได้สั่งการให้กองกำลังรักษาดินแดน (National guard) นำรถบรรทุกปิดกั้นสะพานที่เชื่อมระหว่างชายแดนเวเนซุเอลา กับประเทศโคลอมเบีย เพื่อสกัดไม่ให้ทีมช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมนำยาอาหาร และของใช้จำเป็นต่างๆเข้ามายังเวเนซุเอลาได้

การส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมดังกล่าวมาจากนาย ฆวน ไกวโด ผู้อ้างตัวเป็นประธานาธิบดีรักษาการเวเนฯ และได้รับการรับรองจากหลายประเทศ ร้องขอให้นานาชาติส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้ามายังเวเนฯ

 

Image result for ทหารเวเนฯปิดสะพานเชื่อมโคลอมเบีย

เวเนซุเอลา ประกาศตัดความสัมพันธ์กับโคลอมเบีย

ประธานาธิบดี นิโคลาส มาดูโร ของเวเนซุเอลา ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการเมืองและการทูตกับโคลอมเบีย พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ประจำสถานเอกอัครราชทูตโคลอมเบีย ในเวเนซุเอลา ย้ายออกจากประเทศภายใน 24 ชั่วโมงนี้

Image result for เวเนซุเอลา ประกาศตัดความสัมพันธ์กับโคลอมเบีย

หลังระบุว่า โคลอมเบีย ให้การช่วยเหลือและสนับสนุน นายฮวน กุยโด ผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลา ที่ประกาศตั้งตนเป็นผู้นำรักษาการ ประธานาธิบดีรวมถึงเหล่าทหารที่แปรพักตร์ ในการนำสิ่งของบรรเทาทุกข์จากนานาชาติรวมถึงสหรัฐฯ ทั้งอาหารและยารักษาโรคไปให้กับประชาชนที่กำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรงจากพิษเศรษฐกิจ

ซึ่งผู้นำเวเนซุเอลา มองว่าเป็นการละเมิดพรมแดน พร้อมสั่งปิดชายแดน 3 แห่งที่ใช้เดินทางข้ามระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน ที่ต่างพากันออกมาประท้วงต่อต้านรัฐบาลจนเกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชน ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 คน บาดเจ็บอีกมากถึง 300 คน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่พยายามเผารถบรรทุกสิ่งของหลายคันที่พยายามข้ามแดนมาด้วย

ด้าน นายไมค์ ปอมปีโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวว่าสหรัฐฯ จะจัดการกับพฤติกรรมอันธพาล ของรัฐบาลนายมาดูโร ที่ขัดขวางการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม จากสหรัฐฯ พร้อมระบุว่านาย”กวยโด”จะได้เข้าร่วมการประชุมกลุ่มลิมา ที่ประเทศโคลอมเบีย ด้วย

ระเบิดทำลายบ้านราชายาเสพติดชื่อดังชาวโคลอมเบีย

ทางการโคลอมเบียได้สั่งให้ระเบิดทำลายบ้านที่เคยเป็นที่พำนักของอดีตราชายาเสพติดชื่อดัง ปาโบล เอสโคบาร์ เพื่อนำที่ดินไปสร้างเป็นอนุสรณ์สถานอุทิศให้แก่บรรดาผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของอาชญากรชื่อก้องโลกผู้นี้

บ้านพัก 8 ชั้นหลังนี้ตั้งอยู่ในเมืองเมเดยีน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศโคลอมเบีย โดยการระเบิดทำลายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 22 ก.พ. มีประชาชนไปร่วมเป็นสักขีพยานราว 1,600 คน ในจำนวนนี้มีครอบครัวผู้เสียชีวิตและเหยื่อของอาชญากรเจ้าของฉายา “ราชาแห่งโคเคน” ผู้นี้รวมอยู่ด้วย

แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการ “ลบเลือนประวัติศาสตร์” อีกทั้งยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาชม แต่ทางการโคลอมเบียยืนยันว่านี่เป็นการ “เปลี่ยนแปลง” เรื่องราวเพื่อให้ความสำคัญแก่ผู้ตกเป็นเหยื่อมากกว่าตัวอาชญากร

Colombian drug lord Pablo Escobar

ปาโบล เอสโคบาร์ คือใคร

  • ปาโบล เอสโคบาร์ เกิดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 1949 ในครอบครัวเกษตรกรที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้เมืองเมเดยีน
  • ความทะเยอทะยานและความโลภ ทำให้เขาก้าวเข้าสู่ธุรกิจค้ายาเสพติดในช่วงกลางทศวรรษที่ 1970 ก่อนที่จะกลายเป็นหัวหน้าขบวนการค้ายา “เมเดยีน” ที่ทรงอิทธิพล
  • เขามักได้รับการขนานนามว่า “ราชาแห่งโคเคน”( The King of Cocaine) เชื่อกันว่าในยุครุ่งเรืองที่สุดเขาเป็น 1 ใน 10 บุคคลร่ำรวยที่สุดในโลก โดยคาดว่ามีทรัพย์สินระหว่าง 2.5 – 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 หรือราว 4.8 – 5.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในยุคปัจจุบัน
  • แก๊งค้ายาเมเดยีน ของเขาถูกกล่าวหาว่าส่งออกโคเคนมากถึง 80% ของโคเคนทั้งหมดที่ส่งไปจำหน่ายในสหรัฐฯ
  • เอสโคบาร์ เสียชีวิตขณะพยายามหลบหนีการไล่ล่าของตำรวจโคลอมเบีย เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 1993 ขณะมีอายุ 44 ปี
  • หลังจากเสียชีวิตเรื่องราวของเขาถูกนำไปเขียนเป็นหนังสือ รวมทั้งถ่ายทอดในละครทีวีและภาพยนตร์มากมาย เช่น ซีรีส์เน็ตฟลิกซ์เรื่อง Narcos เป็นต้น

Image result for ระเบิดทำลายบ้านราชายาเสพติดชื่อดังชาวโคลอมเบีย

นักวิจัยชาวโคลอมเบีย เสพติดสมาร์ตโฟนเสี่ยงโรคอ้วน

งานวิจัยชิ้นใหม่ระบุว่าการเสพติดสมาร์ตโฟนอาจนำไปสู่การเพิ่มของน้ำหนักตัวอย่างจริงจัง และเพิ่มโอกาสโดนโรคร้ายแรงอื่นๆ จู่โจม

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักวิจัยชาวโคลอมเบียเผยว่าคนวัยหนุ่มสาวที่ใช้สมาร์ตโฟน 5 ชั่วโมงขึ้นไปต่อวันมีความเสี่ยงต่อโรคอ้วนและปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงโรคหัวใจเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 43

มิรารี แมนทิลลา-มอร์รอน ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพปอดและหลอดเลือดแห่งมหาวิทยาลัยซิมอน โบลิวาร์ (SBU) ในโคลอมเบียกล่าวว่าการใช้สมาร์ตโฟนในระยะเวลานานเกินไปก่อให้เกิดพฤติกรรมเนือยนิ่ง และมีเวลาออกกำลังกายน้อยลง ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร โรคเบาหวาน โรคหัวใจ มะเร็งชนิดต่างๆ อาการเจ็บปวดของกระดูกและกล้ามเนื้อ

การวิจัยดังกล่าวมาจากการศึกษาพฤติกรรมนักศึกษาจำนวน 1,060 คน แบ่งเป็นหญิง 700 คน และชาย 360 คน อายุ 19 ปีและ 20 ปีตามลำดับ จากคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพแห่งมหาวิทยาลัยซิมอน โบลิวาร์ ตั้งแต่มิถุนายน-ธันวาคม 2018

นักวิจัยพบว่ามีนักศึกษาที่ติดสมาร์ตโฟนมีแนวโน้มเป็น 2 เท่าที่จะดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล อาหารจานด่วน ขนมหวาน และของว่างมากขึ้น รวมทั้งออกกำลังกายน้อยลง

แมนทิลลา-มอร์รอนกล่าวว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนทั่วไปต้องรับรู้และตระหนักว่า แม้เทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือจะดึงดูดใจเพราะพกพาสะดวก เข้าถึงข้อมูลต่างๆ นับไม่ถ้วน และเป็นแหล่งความบันเทิง แต่ทุกคนควรใช้ประโยชน์จากมันในการปรับปรุงนิสัยและพฤติกรรมเพื่อสุขภาพด้วย

องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ระหว่างเทคโนโลยีและโรคอ้วนนั้นเป็นเรื่องที่น่าสำรวจ เนื่องจากในปี 2016 มีประชากรผู้ใหญ่มากกว่า 1.9 พันล้านคนทั่วโลกประสบภาวะน้ำหนักเกิน

แมนทิลลา-มอร์รอนเสริมว่าเราได้สรุปแล้วว่าระยะเวลาที่แต่ละคนใช้โทรศัพท์มือถือนั้นมีส่วนก่อให้เกิดการพัฒนาไปสู่โรคอ้วน

ชายชาวโคลอมเบียถูกจับข้อหาขนโคเคน

“โคลอมเบีย” ขึ้นชื่อ (เสีย) เรื่องยาเสพติด โดยเฉพาะ “โคเคน” และแก๊งค้ายาฯ ใช้กรรมวิธีหลากหลายในการลักลอบขนโคเคนหลบเลี่ยงหูตาเจ้าหน้าที่ ไล่ตั้งแต่กรอกใส่ถุงยางอนามัยยัดเข้าทวารหนักและช่องคลอดหรือกลืนลงท้อง ซุกในลังสินค้า ไปจนถึงใช้ “เรือดำน้ำ” หรือ “โดรน” ในการขนส่งยา

แต่ชายชาวโคลอมเบียวัยกลางคนรายหนึ่งอาจไม่ใช่นักค้ายา “มืออาชีพ” เพราะขนโคเคนแบบประเจิดประเจ้อสุดๆ จนถูกจับได้ที่สนามบิน “บาร์เซโลนา-เอล แพรท” ในเมืองบาร์เซโลนาในสเปน หลังเดินทางจากกรุงโบโกตาในโคลอมเบียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ตำรวจสนามบินสังเกตเห็นเขามีพิรุธ กระสับกระส่าย เหงื่อแตกพลั่กๆ แต่ที่เตะตาทันทีที่เห็นกลับเป็น “วิกผม” ปกปิดหัวล้านที่กลางกระหม่อม ซึ่งใหญ่โตบะเริ่มเทิ่มผิดปกติ จึงขอตรวจค้น และพบว่าเขาซุกห่อโคเคนถึงครึ่ง กก. ราคาราว 30,000 ยูโร (ราว 1,088,000 บาท) ไว้ใต้วิกผม

ตำรวจเผยว่า ในปี 2561 ยึดโคเคนได้ที่สนามบินบาร์เซโลนากว่า 100 กิโลกรัม แต่ไม่มีครั้งไหนที่มีผู้ขนโคเคนแบบ “ไม่เนียน” ได้ถึงปานนี้