การแบ่งเขตการปกครองประเทศโคลอมเบีย

โคลอมเบียแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 32 จังหวัด (departments) ชื่อเมืองหลวงอยู่ในวงเล็บ

Colombia-departamentos.png

1. อามาโซนัส (เลตีเซีย)
2. อันเตียวเกีย (เมเดยิง)
3. อาเรากา (อาเรากา)
4. อัตลันตีโก (บาร์รันกียา)
5. โบลีบาร์ (การ์ตาเคนา)
6. โบยากา (ตุนคา)
7. กัลดัส (มานีซาเลส)
8. กาเกตา (โฟลเรนเซีย)
9. กาซานาเร (โยปัล)
10. เกากา (โปปายัง)
11. เซซาร์ (บาเยดูปาร์)
12. โชโก (กิบโด)
13. กอร์โดบา (มอนเตรีอา)
14. กุนดีนามาร์กา (โบโกตา)
15. ไกวย์นีอา (ปวยร์โตอีนีรีดา)
16. กวาเบียเร (ซังโฮเซเดลกวาเบียเร)
17. วีลา (เนย์บา)
18. กวาคีรา (เรียวอาชา)
19. มักดาเลนา (ซันตามาร์ตา)
20. เมตา (บียาบีเซนเซียว)
21. นารีโญ (ปัสโต)
22. นอร์เตเดซันตันเดร์ (กูกูตา)
23. ปูตูมาโย (โมโกอา)
24. กินดีโอ (อาร์เมเนีย)
25. รีซารัลดา (เปเรย์รา)
26. ซันอันเดรสและโปรบีเดนเซีย (ซันอันเดรส)
27. ซันตันเดร์ (บูการามังกา)
28. ซูเกร (ซินเซเลโฮ)
29. โตลีมา (อีบาเก)
30. บาเยเดลเกากา (คาลี)
31. เบาเปส (มีตู)
32. บีชาดา (ปวยร์โตกาเลโญ)

ประเพณีคริสต์มาสที่ไม่ซ้ำกันมากที่สุดในโคลอมเบีย

ประเพณีคริสต์มาสแตกต่างกันไปทั่วโลกและการเฉลิมฉลองคริสมาสต์นอกประเทศของคุณเองหรืออยู่ห่างจากครอบครัวของคุณอาจดูเหมือนเป็นประสบการณ์แปลกใหม่หรือแปลกประหลาดในครั้งแรกที่คุณทำ โคลอมเบียมีประเพณีและเทศกาลคริสต์มาสที่ไม่ซ้ำกันทั้งหมดดังนั้นนี่คือบางส่วนที่ไม่ซ้ำกันและผิดปกติมากที่สุด

Related image

วันเทียนเล็ก ๆ

La Dia de las Velitas, หรือวันของเทียนเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นวิธีที่ชาวโคลอมเบียส่วนใหญ่ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส ทุกๆเดือนธันวาคม 7 ครอบครัวพาไปตามถนนเพื่อจุดเทียนนับร้อย ๆ ต้นซึ่งจะหมายถึงแสงของพระแม่มารีย์ขณะที่เธอมาอวยพรบ้านของพวกเขา คุณจะเห็นท้องพระโรงที่เร่าร้อนเหล่านี้สว่างไสวไปตามถนนในเมืองและเมืองโคลอมเบียในทุกวันนี้

Novenas

สำหรับเก้าคืนที่นำไปสู่เทศกาลคริสต์มาสครอบครัวชาวโคลัมเบียมารวมกันอยู่ในบ้านของกันและกันตามประเพณีเพื่อท่องคำอธิษฐานคริสต์มาสเก่า ๆ ในขณะที่หลายคนยังคงรักษาด้านศาสนาไว้ แต่ก็มีวิวัฒนาการมาเป็นข้ออ้างที่ดีในการรวมตัวกันเป็นเวลาเก้าคืนเพื่อกินดื่มและโดยทั่วไปจะร่าเริง! ชาวโคลอมเบียมั่นใจว่าจะรักงานเลี้ยง

Image result for ไฟคริสต์มาสและฉากการประสูติ

ไฟคริสต์มาสและฉากการประสูติ

เห็นได้ชัดว่าฉากคริสต์มาสและฉากการประสูติไม่ได้ผิดปกติหรือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโคลัมเบีย อย่างไรก็ตามความมุ่งมั่นและขนาดของโคลัมเบียไฟและธรรมชาติเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขายืนออกจากกัน คุณจะพบฉากการประสูติที่ซับซ้อนซึ่งบางครั้งก็สมบูรณ์ด้วยการใช้น้ำหรือต้นไม้ที่แท้จริงในล็อบบี้ของอาคารอพาร์ทเมนต์และโรงแรมส่วนใหญ่ และไฟคริสต์มาสนำไปอีกระดับหนึ่ง: Medellin โดยเฉพาะมีชื่อเสียงในด้านแสงไฟนับล้านที่พวกเขาลุกขึ้นในเมืองทุกวันคริสมาสต์

Image result for Alborada ใน Medellin

Alborada ใน Medellin

อีกประเพณีหนึ่งของ Medellin Christmas และอีกส่วนหนึ่งคือ Alboradas – ทุกเดือนธันวาคม 1 เพื่อต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสเป็นแบบดั้งเดิมที่จะระเบิดดอกไม้ไฟทั่วทั้งเมืองหนึ่งพันปี มันแตกต่างจากความกังวลด้านความปลอดภัยซ้ำ ๆ และเสียงอันเหลือเชื่อที่มาจากคนหลายพันคนพัดดินปืนตลอดทั้งคืน! สนุก แต่ต้อนรับคริสต์มาสด้วยเสียงปังใน Medellin

พระเยซูคริสต์ส่งของขวัญ

ในขณะที่หลายประเทศกำลังรอคอยการมาถึงซานตาคลอสที่มีแบริ่งให้แก่เด็ก ๆ ในโคลัมเบียมันแตกต่างกันไปเล็กน้อยเด็ก ๆ คงอยู่จนถึงปลายเดือนธันวาคม 24 เพื่อรับของขวัญที่จัดส่งโดย … Baby Jesus ตัวเอง! คุณยังคงเห็นภาพและแสงสีสันที่เต็มไปด้วยภาพลักษณ์ของซานต้าที่ร่าเริง แต่ก็ยิ่งลดลงจากอิทธิพลของทีวีและภาพยนตร์มากกว่าเรื่องทางวัฒนธรรม บางคนอาจคิดว่าดูเหมือนว่าเด็กน้อยพระเยซูจะนำเสนอของขวัญวันเกิดและวันเกิดของตน แต่เป็นประเพณีคริสต์มาสที่สำคัญของชาวโคลอมเบีย

Image result for ประเพณีคริสต์มาส

วันผู้ไร้เดียงสา

ถ้าคุณคิดว่าความสนุกจบลงในเดือนธันวาคม 25 แล้วคุณยังไม่ได้ฉลองคริสต์มาสในโคลอมเบีย! ในวันที่ 28 ทั้งประเทศเฉลิมฉลองวันผู้บริสุทธิ์: คนดึงความเย้ายวน, เล่นเรื่องตลกในทางปฏิบัติและโดยทั่วไปพยายามที่จะขบขันและกันเอง! หลังจากที่เรืองแสงของวันคริสมาสต์จางหายไปนี่เป็นวิธีที่ดีในการปลุกจิตสำนึกของคุณให้พร้อมสำหรับการเตรียมตัวสำหรับปีใหม่

เทศกาลแข่งทำเสียงลาที่โคลอมเบีย

เทศกาลลาที่เมืองโมนิควิลล่าของโคลอมเบียเมื่อวานนี้ มีทั้งประชาชนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวมาร่วมเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน เริ่มจากขบวนพาเหรดที่ทั้งลาและเจ้าของ ต่างแต่งตัวด้วยชุดประจำท้องถิ่น และสวมใส่เครื่องประดับอย่างเต็มที่ ผู้ที่เข้าร่วมขบวนได้เดินไปตามท้องถนนในเมือง เพื่อสร้างความครื้นเครงให้กับประชาชนที่อยู่สองฟากถนน

ขณะที่กิจกรรมที่หลายคนให้ความสนใจคือ แข่งทำเสียงร้องของลา นายกเทศมนตรีเมืองโมนิควิลล่า บอกว่า งานเทศกาลนี้มีขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้กับลา และเกษตรกร ที่ต้องทำงานอย่างหนัก โดยเฉพาะลาเหล่านี้ถูกใช้งานแบกมมาตลอดทั้งปี

อารีปัส (Arepas)อาหารประเทศโคลอมเบีย

อารีปัส (Arepas) ถือกำเนิดขึ้นในทวีปอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในประเทศโคลัมเบียและเวเนซุเอลาจะกินอาหารชนิดนี้กันทุกมื้อ อารีปัสทำมาจากแป้งข้าวโพดที่ปิ้งจนสุก (โคลัมเบีย) หรือทอดและอบ (เวเนซุเอลา) อารีปัสสามารถกินเปล่าๆ เลยก็ได้ แต่ก็มักจะสอดไส้รสชาติแสนอร่อยต่างๆ ไว้ด้วย

ส่วนประกอบ

– แป้งข้าวโพด (maize flour) 2 ถ้วยตวง / 235 กรัม
– น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง/ 250 มิลลิลิตร
– เกลือหนึ่งหยิบมือ
– น้ำมัน

ขั้นตอนการทำอารีปัส

1. ผสมส่วนผสมต่างๆ เข้าด้วยกัน. ใส่แป้งข้าวโพดและเกลือหนึ่งหยิบมือในชามผสมขนาดใหญ่ ใช้นิ้วหรือที่ตีคนส่วนผสมให้เข้ากัน นำน้ำที่ตวงไว้ค่อยๆ เทลงไปในแป้ง

2. นวดแป้งโด. ใช้มือนวดแป้งและน้ำเข้าด้วยกันจนตัวแป้งอ่อนนุ่ม นวดไปเรื่อยๆ จนกว่าแป้งโดจะไม่มีเม็ดหยาบๆ เป็นก้อนและสามารถปั้นเป็นลูกได้โดยที่แป้งไม่แตก

3. ปั้นอารีปัส. หยิบแป้งโดขึ้นมาหนึ่งกำมือแล้วปั้นเป็นลูกกลมๆ จากนั้นใช้ฝ่ามือกดให้แป้งกลายเป็นรูปพายขนาดใหญ่ แป้งโดนี้ควรจะหนาประมาณครึ่งนิ้วและกว้างประมาณ 3-4 นิ้ว ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากจะให้อารีปัสมีขนาดแค่ไหน วางอารีปัสที่ปั้นแล้วลงบนแผ่นรองอบแล้วปั้นอารีปัสที่เหลือต่อจนแป้งหมด

4. ใช้ตะแกรงที่สามารถยกอารีปัสขึ้นมาเหนือตัวทำความร้อนของเตาอบประมาณ 2.5 ซม.เพื่อทำแบบโคลัมเบีย

5. หากจะทำแบบเวเนซุเอลา เตรียมพร้อมโดยการวอร์มเตาอบให้ร้อนถึง 250°C/480°F.ก่อนที่จะนำอารีปัสไปทอด และเตาอบควรร้อนเต็มที่ก่อนจะนำอารีปัสไปอบ

6. ทอดอารีปัส. ตั้งน้ำมันปริมาณเล็กน้อยให้ร้อนในกระทะเหล็กขนาดใหญ่หรือในกระทะสำหรับทอดโดยใช้ไฟปานกลาง เมื่อน้ำมันร้อนแล้วให้นำอารีปัสมาทอดในกระทะประมาณ 3-4 นาที จนด้านนั้นกรอบ แล้วพลิกอีกด้านเพื่อทอดจนกรอบกลายเป็นสีน้ำตาลทอง จากนั้นนำอารีปัสที่ทอดแล้วมาวางบนแผ่นรองอบแล้วทอดอารีปัสต่อจนหมด

7. อบอารีปัส. ทันทีที่ทอดอารีปัสและวางบนแผ่นรองอบเรียบร้อยแล้วให้นำเข้าเตาอบที่วอร์มเตรียมไว้ใช้เวลาอบ 15 นาที ส่วนวิธีดูว่าอารีปัสสุกดีหรือยัง ให้คุณนำอารีปัสออกจากเตาแล้วแตะด้านบนของอารีปัส หากคุณรู้สึกกลวงๆ เหมือนกับไม่มีอะไรอยู่ข้างใน นั่นแสดงว่าอารีปัสได้ที่แล้ว

8. หั่นอารีปัส. ใช้มีดคมหั่นครึ่งอารีปัสตามยาว จากนั้นใส่ไส้อารีปัสด้วยไส้ที่คุณชื่นชอบ เพียงเท่านี้อารีปัสก็พร้อมทานแล้ว.

วิธีทำไส้อารีปัส

1. ทำไส้สำหรับเป็นมื้อเช้า. ในประเทศเวเนซุเอลาอารีปัสมักมีไส้แฮมและชีสสำหรับกินเป็นอาหารเช้า เลือกใช้สลัดแฮมรสเผ็ด (Deviled ham salad) หรือแฮมรมควันแล้วนำมาจับคู่กับชีสอย่างกัวยาเนส (Guayanes) ไปซา (Paisa) หรือดูโร (Duro)

2. ทำไส้สำหรับเป็นอาหารว่าง. ส่วนใหญ่แล้วอารีปัสสามารถกินเปล่าๆได้เลยหรือกินกับไส้ง่ายๆ อย่างชีสเพื่อเป็นอาหารว่าง สำหรับอาหารว่างที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น ให้ลองทำหนึ่งในไส้แสนง่ายเหล่านี้

3. ทำอารีปัส de Pabellón. De Pabellón. เป็นอาหารของเวเนซุเอลาที่ขึ้นชื่อรองจากอารีปัส การนำอาหารทั้งสองชนิดนี้มาผสมผสานกันจึงเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ อารีปัส de Pabellón มีส่วนผสมดังนี้
เนื้อวัวชิ้นหรือเนื้อวัวฉีก ถั่วดำ และกล้วยทอด สำหรับสูตรดั้งเดิมจริงๆ
โปะไข่ดาวและชีสด้านบนเนื้อวัว ถั่วดำ และกล้ายทอดเพื่อความอร่อยแบบขั้นสุด

แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของประเทศโคลอมเบีย

ประเทศโคลอมเบีย (Colombia) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐโคลอมเบีย มีขนาดประมาณ 2 เท่าของประเทศไทย ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของทวีปอเมริกาใต้จึงเป็นช่องทางการค้าสำคัญมาตั้งแต่ยุคอาณานิคม โดยมีเมืองคาตาเฮน่าเป็นเมืองสำคัญ และเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างทวีปอเมริกาเหนือกับอเมริกาใต้

สภาพภูมิศาสตร์ของโคลอมเบีย แบ่งเป็น 5 เขต คือ เขตชายฝั่งแปซิฟิก (เมืองสำคัญ คือ บารังคิล่าและคาตาเฮน่า) เขตเทือกเขาแอนดีส ซึ่งเป็นเขตประชากรหนาแน่น (เมืองสำคัญ คือ โบโกต้า เมเดลิน และกาลี), เขตทุ่งหญ้าที่ราบเขตป่าแอมะซอน และ เกาะต่างๆ เห็นได้ว่ามีความหลากหลายมากๆ ชายหาดก็สวย มีภูเขาสูง ภูเขาไฟ ป่าดงดิบ ไร่กาแฟ ฯลฯ

ทีนี่มาดูกันดีกว่าว่าประเทศนี้มีอะไรน่าเที่ยว มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ขอบอกครบถ้วนทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และ วัฒนธรรม

Image result for Bogota

1. กรุงโบโกต้า (Bogota) เมืองหลวงของประเทศที่เก่าแก่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 5 ศตวรรษ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโคลอมเบีย อากาศหนาวเย็นตลอดปีเพราะตั้งอยู่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 2,600 เมตร เมื่อมาถึงเมืองหลวงโบโกต้าต้องไม่พลาดที่จะมาเดินเล่นที่ ย่านแคนเดอลาเรีย (La Candelaria) ย่านประวัติศาสตร์ที่ได้มีการรักษาและบูรณะอาคารและสิ่งก่อสร้างเก่าแก่นับร้อยปี รวมถึงโบสถ์ที่มีอายุกว่า 400 ปีอย่างโบสถ์ซานฟรานซิสโก (San Francisco Church)

Image result for Monserrate

2. ยอดเขามองเซอร์รัต (Monserrate) เป็นเทือกเขาที่สูงกว่า 3,152 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวง บนยอดเขามีโบสถ์เก่าแก่ และถือได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในเมืองโบโกต้า การไปเที่ยวยอดเขาแห่งนี้ต้องขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไป

Image result for Gold Museum – El Museo del Oro

3. พิพิธภัณฑ์ทองคำ (Gold Museum – El Museo del Oro) เป็นพิพิธภัณฑ์ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในจัดแสดงเครื่องใช้ เครื่องประดับ และข้าวของที่ทำจากทองคำในช่วง Pre-Hispanic มีชิ้นงานล้ำค่าจัดแสดงกว่า 55,000 ชิ้น นอกจากนี้ที่ชั้นสองและชั้นสามของพิพิธภัณฑ์ยังจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในอดีตที่ขุดพบในโคลอมเบียซึ่งบอกเล่าถึงวัฒนธรรมและการดำรงชีวิตของชนเผ่าพื้นเมืองในอดีต

Image result for Salt Cathedral of Zipaquira

4. วิหารเกลือซีปากีรา (Salt Cathedral of Zipaquira) ตั้งอยู่ที่เมือง ซิปปาคิวล่า (Zipaquira) วิหารเกลือแห่งนี้เจาะเข้าไปภายในเหมืองเกลือใต้ดินลงไปประมาณ 200 เมตร โดยแรกเริ่มเป็นแค่อุโมงค์เหมืองเกลือธรรมดาแต่คนงานเหมืองกันพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้เป็นสถานที่สำหรับสวดมนต์เพื่ออ้อนวอนพระเจ้าให้คุ้มครองระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเหมือง ภายในมืดและตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นกำมะถัน เมื่อเดินเข้าไปตามทางแคบๆ จะเห็นแท่นบูชาตั้งอยู่สุดปลายทาง วิหารแห่งนี้สูง 22 เมตร ภายในจุคนได้ถึง 8,000 คน ปัจจุบัน เหมืองเกลือแห่งนี้ไม่ได้ผลิตเกลือแล้ว เหลือเพียงแต่วิหารไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว

Image result for ไร่กาแฟโคลอมเบีย

5. ไร่กาแฟที่เมืองฟูซาซูกา (Fusagasuga) ถ้าไปถึงโคลอมเบียแล้วต้องไปเยือนไร่กาแฟและชมกระบวนการผลิตกาแฟให้ได้ เพราะประเทศนี้ผลิตกาแฟเพื่อส่งออกมากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก บราซิล และเวียดนาม กาแฟที่มีชื่อคือ ซูรีโม (Suremo) เป็นกาแฟอาราบิก้าที่รสชาติดี ผ่านกรรมวิธีการล้างโดยวิธีแบบเปียก ไม่มีรสเปรี้ยว ผสมโดย “สตาร์บัค”

เมืองฟูซาซูกาเป็นเมืองเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่สมัยอาณานิคม ไร่กาแฟที่เมืองนี้อยู่บนเทือกเขาที่มีอากาศเย็นตลอดปีเนื่องจากอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,765 เมตร

Image result for Carnival of Barranquilla

6. งานคาร์นิวัลแห่งเมืองบาร์รังกียา (Carnival of Barranquilla) ขบวนแห่ในเทศกาลของชาวคาทอลิคที่ยิ่งใหญ่รองจากที่เมืองริโอฯ แต่ละปีมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1,500,000 คน ถือได้ว่าเป็นงานคาร์นิวัลที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลกจนองค์การยูเนสโก้ (UNESCO) ยกย่องให้เป็น “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” เมื่อปี 2003

เมืองบาร์รังกียา (Barranquilla) เป็นเมืองท่าอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ใกล้กับทะเลแคริบเบียน สามารถเดินเที่ยวชมสถาปัตยกรรมแบบอาร์ทเดคโค่ (Art Deco) และสถานที่สำคัญๆ ของเมือง

Image result for Cartagena

7. เมืองคาร์ตาเฮนา (Cartagena) ประตูสู่แคริบเบี้ยนใต้ นับได้ว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งของทวีปอเมริกาใต้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในปีค.ศ 1984 ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของโคลอมเบียเพราะเป็นเมืองท่าจอดเรือสำราญล่องทะเลแคริบเบี้ยน นอกจากมี ชายหาดโบกาเกรนเด้(Bocagrande) อันขึ้นชื่อแล้ว ยังมี เกาะโรซาริโอ (Rosario Islands), เขตเมืองเก่าแห่งการ์ตาเคนา (Old Town), หอคอยโตเร เด เรลอค (Torre de Reloj) ซึ่งเป็นหอนาฬิกาที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองการ์ตาเคนา, ย่านเคทเซมานี (Getsemaní), จตุรัสปลาซ่า เดซาน เปโดร (Plaza de San Pedro) จตุรัสที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง, รูปปั้นหญิงอ้วน (La gordita) รังสรรค์โดยศิลปินชาวโคลอมเบียที่มีชื่อเสียงระดับโลก, มหาวิหารแห่งเมืองการ์ตาเคนา (Catedral de Cartagena) มหาวิหารที่สำคัญที่สุดของเมือง เป็นต้น

Image result for The River of the Five Colors

8. แม่น้ำ 5 สี (The River of the Five Colors) ได้รับการยกย่องว่าเป็นแม่น้ำที่สวยที่สุดในโลก รู้จักกันในชื่อ “แม่น้ำคาโญ่ คริสตาเลส” (Caño Cristales) ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Serranía de la Macarena ในเมือง ลา มาการีนา (La Macarena) จริงๆ แล้วสีที่มองเห็นโดยเฉพาะสีแดง สีชมพู และสีเขียวเกิดจากพืชใต้น้ำ คือ หญ้ามอสและสาหร่ายที่เจริญเติบโตบนหินและบริเวณน้ำตกหรือที่ๆ น้ำไหลแรงในแม่น้ำตื้นๆ จึงทำให้มองเห็นว่าแม่น้ำมีหลายสี แม่น้ำ 5 สีจะสวยงามที่สุดในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน

 

หนุนการใช้ภาษีบุหรี่-เหล้า-น้ำตาล ของโคลอมเบีย

ประเทศโคลอมเบียมีการขึ้นภาษียาสูบ (โดยขึ้นภาษีเฉพาะตามปริมาณยาสูบถึง 200% และยังกำหนดให้จัดเก็บเพิ่มขึ้นอีก 4% ต่อปี ตามภาวะเงินเฟ้อ) ผลคือ การสูบบุหรี่ลดลงถึง 23% ทันทีในปี 2560 ขณะที่รายได้จากภาษีบุหรี่ก็เพิ่มขึ้นถึง 54% โดยปีเดียวกันยังมีการปรับมาตรการภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยการจัดเก็บภาษีในอัตรา 25% ซึ่งรวมภาษีตามมูลค่าของสินค้าและภาษีเฉพาะที่จัดเก็บตามดีกรีแอลกอฮอล์ ทำให้รายได้การจัดเก็บภาษีจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นจาก 195 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 301 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 17% ในปี 2560 ย้อนขึ้นไปที่อเมริกาเหนือ

Related image

ประเทศเม็กซิโกมีการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มผสมน้ำตาลที่ให้ผลลัพธ์น่าสนใจ ซึ่งพบว่าในปี 2557 มีการจัดเก็บภาษี 0.064 เหรียญสหรัฐต่อลิตร ทำให้ผู้บริโภคน้ำอัดลมและเครื่องดื่มผสมน้ำตาลลดลงได้ 16% นอกจากนี้ยังพบว่ารัฐสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้นซึ่งคิดเป็น 25% ของค่าใช้จ่ายที่เกิดจากโรคอ้วน

รสชาติกาแฟโคลัมเบีย

รสชาติกาแฟโคลัมเบีย กาแฟโคลัมเบียมีรสชาติเยอะมาก จากกาแฟที่หนักและมีรสช็อคโกแลตไปจนถึงกาแฟที่หวานและคล้ายผลไม้และแยม โดยรสชาติที่มีมากมายนั้นเกิดขึ้นในทุกภูมิภาคที่ผลิตของกาแฟ

Image result for รสชาติกาแฟโคลัมเบีย

FNC และคุณภาพ

มีความขัดแย้งการระหว่าง FNC กับอุตสาหกรรมกาแฟที่เน้นคุณภาพ เพราะผลประโยชน์ของเกษตรกรตามมุมมองของ FNC อาจไม่ได้นำไปสู่คุณภาพกาแฟที่ดีที่สุด โดย FNC มีแผนกวิจัยที่เรียกว่า Cenicafe ซึ่งจะเพาะพันธุ์กาแฟสายพันธุ์ต่างๆและอาจเชื่อว่าการส่งเสริมกาแฟสายพันธุ์อย่างคาสทิลโล (Castillo) นั้นดีกว่า ซึ่งนั่นเป็นการให้ความสำคัญกับผลผลิตมากกว่าคุณภาพกาแฟในแก้ว ข้อถกเถียงนั้นมีเหตุผลทั้งสองด้าน เพราะสภาพอากาศโลกที่กำลังเปลี่ยนไปนั้นส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของการผลิตกาแฟในโคลอมเบีย ซึ่งมันยากที่จะถียงว่าสายพันธุ์กาแฟที่รับประกันความเป็นอยู่ของผู้ผลิตนั้นไม่ดีแม้ว่ามันจะเสียคุณภาพกาแฟไปก็ตาม

การสืบค้นย้อนกลับ (TRACEABILITY)

FNC ได้คิดคำว่า ‘Sopremo ’และ ‘Excelso’ ขึ้นมาเพื่อส่งเสริมกาแฟโคลอมเบีย คำเหล่านี้สื่อถึงขนาดของเมล็ดกาแฟเท่านั้นและไม่ได้มีความสัมพันธ์กับคุณภาพเลย โชคร้ายที่การจัดประเภทแบบนี้ทำให้การสืบค้นย้อนกลับไม่ชัดเจนเพราะกาแฟที่ขายอาจมาจากหลายๆไร่ และนำมาผสมรวมกันก่อนเข้าเครื่องคัดขนาด นี่เป็นกาแฟทั่วไปซึ่งชื่อของมันไม่ช่วยอะไรเลยหากคุณต้องการซื้อคุณภาพ วงการกาแฟชนิดพิเศษกำลังพยายามรักษาความสามารถในการสืบย้อนกลับ ดังนั้นหากคุณกำลังมองหากาแฟดีๆ ก็ให้หาเมล็ดกาแฟที่มาจากไร่ที่เจาะจงแทนที่จะดูที่ขนาดเมล็ด

Juan Valdez สัญลักษณ์ของกาแฟโคลอมเบีย

โคลอมเบียรู้ว่าการตลาดมีค่าแค่ไหนและเริ่มสร้างแบรนด์ของตัวเองค่อนข้างไว โดยการสร้างตัวละครชื่อ Juan Valdez เกษตรที่เป็นตัวแทนของกาแฟโคลอมเบียในปี 1958 อาจเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลยก็เป็นได้ โดย Juan Valdez กับลาของเขาเป็นสัญลักษณ์ของกาแฟโคคลอมเบียที่สามารถพบได้บนถุงกาแฟและในโฆษณาที่แสดง

Related image

โดยนักแสดงสามคนตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดย Juan Valdez กลายเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่กาแฟโคลอมเบีย ตัวละครนี้ต่อยอดความสำเร็จของวลีทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จ เช่น ‘กาแฟจากขุนเขา’ (Mountain Grown Coffee) และการส่งเสริม ‘กาแฟโคลอมเบีย 100%’ ซึ่งทำให้โคลอมเบียสามารถสร้างความแตกต่างให้กับตัวเองได้ในสายตาของผู้บริโภคทั่วโลกการตลาดนี้เป็นผลงานของ Federacion Nacional de Cafeteros (FNC) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1927

Image result for Juan Valdez

และเป็นองค์กรในประเทศอื่นที่ทำงานทางด้านการส่งออกและการส่งเสริมกาแฟ แต่ก็ไม่มีองค์กรไหนที่จะใหญ่และซับซ้อนเท่า FNC โดยมันก่อตั้งเป็นองค์กรเอกชลไม่แสวงผลกำไรเพื่อปกป้องผู้ผลิตกาแฟและได้รับเงินทุนมาจากภาษีส่งออกกาแฟพิเศษ เนื่องจากโคลอมเบียเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ขององค์กร FNC จึงมีเงินทุนมากมายจนเติบโตเป็นองค์กรขนาดใหญ่และกลายเป็นองค์กรที่ใช้ระบบเจ้าขุนมูลนาย ซึ่งมันอาจเลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้ระบบนี้เพราะทางเทคนิคแล้วตอนนี้ FNC ถูกครอบครองและควบคุมโดยสมาชิกผู้ผลิตกาแฟที่มีกว่า 500,000 คน ในขณะที่ FNC มีบทบาทด้านการตลาดการผลิต และการเงิน แต่มันก็ยังมีบทบาทครอบคลุมไปถึงชุมชนกาแฟมีส่วนในการสร้างพื้นฐานทางสังคม และโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนนชุมชน โรงเรียน และศูนย์สุขภาพ มันยังลงทุนในอุตสาหกรรมอื่นนอกเหนือจากกาแฟ เพื่อช่วยส่งเสริมการพัฒนาและคุณภาพชีวิตในภูมิภาคด้วย

ความร่วมมือด้านวิชาการของไทยกับโคลอมเบีย

ไทยและโคลอมเบียมีความร่วมมือด้านวิชาการในกรอบทวิภาคี โดย Presidential Agency of International Cooperation of Colombia: APC) ของโคลอมเบีย ต้องการร่วมมือกับไทยในหลายสาขา ที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ อาทิ การปลูกพืชทดแทนการปลูกพืชเสพติด การท่องเที่ยว การพัฒนาพลังงานชีวมวล  วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)

Image result for Presidential Agency of International Cooperation of Colombia: APC)

และการพัฒนาศูนย์กลางการแพทย์และพยาบาลและความร่วมมือในกรอบพหุภาคี โดยโคลอมเบียได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมในโครงการกรอบความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกและลาตินอเมริกา (Forum for East Asia and Latin American Cooperation – FEALAC) อาทิ การอบรมหลักสูตร Tourism Management โครงการบัวแก้วสัมพันธ์ ซึ่งเน้นด้านการท่องเที่ยว ประมงและ SMEs การประชุมเชิงปฏิบัติการด้านยาเสพติด โครงการฝึกอบรมด้านการลดความยากจน (Poverty Reduction) การประชุมว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติระหว่างสมาชิก FEALAC เป็นต้น

คำแนะนำก่อนการเดินทางไปโคลอมเบีย

Image result for ประเทศโคลอมเบีย

ก่อนการเดินทาง

ผู้ที่จะเดินทางไปโคลอมเบียต้องมีหนังสือเดินทางที่ยังมีอายุเกิน 6 เดือน และต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้เหลือง ก่อนการเดินทางอย่างน้อย 10 วัน ควรเตรียมยารักษาโรคและยาประจาตัวไปให้เพียงพอถ้าเป็นไปได้ควรมีใบรับรองแพทย์หรือใบสั่งยาชนิดที่นาไปด้วย ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการสามารถเดินทางเข้าสาธารณรัฐโคลอมเบียโดยไม่ต้องขอวีซ่า และพานักได้ไม่เกิน 90 วัน เนื่องจากไทยมีความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราสาหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการกับสาธารณรัฐโคลอมเบียสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาจะต้องขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตโคลอมเบียประจาประเทศไทยหมายเลขโทรศัพท์+66 21688715-17

การเข้าเมือง

หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ให้เก็บรักษาเอกสารการตรวจคนเข้าเมืองที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ให้ดี เพราะจาเป็นต้องใช้เมื่อเดินทางออกจากประเทศและหากคืนเอกสารจะสามารถลดค่าภาษี (departure tax) ได้

เมื่อเดินทางถึงโคลอมเบีย

สนามบินนานาชาติเอลโดราโด ณ กรุงโบโกตา (Aeropuerto El Dorado หรือ El Dorado International Airport) เป็นสนามบินที่อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเป็นเวลา 20 นาที หากเดินทางโดยแท็กซี่ ควรเตรียมเงิน 1 – 2 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ติดตัวไว้ ในกรณีต้องการใช้รถเข็นในสนามบิน

ภาษา

คนท้องถิ่นใช้ภาษาสเปนในการสื่อสาร คนส่วนใหญ่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ดังนั้นการศึกษาภาษาสเปนพื้นฐานก่อนการเดินทางจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

ความปลอดภัย

โดยทั่วไปแล้ว โคลอมเบียเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสาหรับนักท่องเที่ยว การเดินทางทางรถยนต์ผ่านเมืองต่างๆ มีความปลอดภัย โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ เช่น โบโกตา เมเดยิน การ์ตาเฆนา ซานตา มาร์ตา อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวควรเดินทางโดยมีมัคคุเทศก์หรือผู้นาท่องเที่ยวท้องถิ่น ซึ่งนอกจากจะสามารถแนะนาสถานที่ท่องเที่ยวที่ปลอดภัยได้ดีแล้ว ยังช่วยไม่ให้หลงทาง เพราะภูมิประเทศของโคลอมเบียมีความสลับซับซ้อน อาจหลงทางได้ง่าย การเดินทางระยะไกลด้วยรถบัสควรระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เนื่องจากที่ท่ารถ (Terminal de Transportes) เป็นท่ารถขนาดใหญ่ มีคนจานวนมากทาให้อาจมีมิจฉาชีพ เช่น นักล้วงกระเป๋าและโจรวิ่งราวแฝงตัวอยู่ การเดินทางด้วยแท็กซี่ควรเรียกรถผ่านการโทรศัพท์ ซึ่งทางบริษัทจะบอกหมายเลขรถให้ทราบก่อน และเมื่อรถมารับ คนขับจะถามหมายเลขสองหลักสุดท้ายของเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้โทรเรียก เนื่องจากมีมิจฉาชีพจานวนไม่น้อยที่ปลอมเป็นคนขับแท็กซี่ เพื่อปล้นผู้โดยสาร

ภัยธรรมชาติ

บริเวณที่ราบสูงมีการระเบิดของภูเขาไฟ บางครั้งเกิดแผ่นดินไหวและดินถล่ม มีฤดูแล้งเป็นช่วงๆ ฤดูกาลเปลี่ยนแปลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา

สกุลเงิน/การชำระเงิน

โคลอมเบียใช้สกุลเงินเปโซโคลอมเบีย (Colombian Peso; COP) อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เท่ากับ อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เท่ากับ 1,905.96 เปโซโคลอมเบีย (COP) (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 30 พ.ค. พ.ศ. 2557 จากเว็บไซต์ธนาคารกลางแห่งโคลอมเบีย Banco Central de Colombia) เทียบเป็นเงินไทยคือ 1 บาท ประมาณ 61 เปโซโคลอมเบีย
การจ่ายเงินควรใช้บัตรเครติดบัตรเดบิตและเงินสดทั้งในสกุลท้องถิ่นและเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ มากกว่าใช้เช็คของนักท่องเที่ยว (Traveler’s Cheque) เนื่องจากเช็คของนักท่องเที่ยวไม่ค่อยได้รับความนิยมแพร่หลายนัก อาจประสบปัญหาได้ การเบิกเงินที่ตู้กดเงินสดอัตโนมัติ (ATM) ด้วยบัตรเดบิตจะมีค่าธรรมเนียมต่าที่สุด บัตรที่เป็นที่ยอมรับมากที่สุดคือ Visa และรองลงมาคือ Master Card อย่างไรก็ดี ไม่ควรพกเงินสดติดตัวในปริมาณมากๆ
 

การแลกเงิน

Bancolombia และ Banco Unión Colombiano เป็นธนาคารหลัก 2 แห่งสาหรับการแลกเปลี่ยนเงินและการทาธุรกรรมทางการเงินและยังสามารถแลกเงินได้ตามสถานที่รับแลกเงิน (casas de cambio) ทั่วไปตามโรงแรมที่พัก หรือที่สนามบิน ห้ามแลกเงินข้างทางโดดเด็ดขาดเนื่องจากเป็นไปได้มากที่จะได้รับธนบัตรปลอมและเสี่ยงต่อการถูกชิงทรัพย์

การใช้โทรศัพท์ 

การโทรศัพท์จากโคลอมเบียมาประเทศไทย

กด 001 (หมายเลขโทรทางไกล) – 66 – รหัสพื้นที่ (กรุงเทพฯ กด 2 )– หมายเลขโทรศัพท์บ้านและ 001 – 66 – หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ 9 หลัก

การโทรศัพท์จากประเทศไทยไปโคลอมเบีย
กด 001 (หมายเลขโทรทางไกล) -57 – รหัสพื้นที่ – หมายเลขโทรศัพท์การใช้โทรศัพท์       เคลื่อนที่ของไทยในโคลอมเบีย
กระแสไฟฟ้า 110V 60Hz