ข้อมูลเกี่ยวกับโคลอมเบีย

โคลอมเบีย เป็นหนึ่งในประเทศที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาใต้ โดยมีบางส่วนติดต่อกับทะเลแคริบเบียน เเละมหาสมุทรแปซิฟิก ชื่อของประเทศนั้นได้มาจากนักสำรวจชื่อดังชาวอิตาเลี่ยน นามว่า คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เเต่เดิมนั้นดินเเดนเเถบนี้ถูกปกคองโดยสเปนเเละโปรตุเกสในฐานะของดินอาณานิคมก่อนที่จะได้รับเอกราช ก่อนที่เวเนซุเอลา เอกวาดอร์ และปานามา จะเเยกตัวออกไปเป็นอิสระทำให้เป็นประเทศโคลอมเบียอย่างทุกวันนั้น

  • อุณหภูมิ: เฉลี่ยตลอดทั้งปีจะอยู่ที่ 7 องศาเซลเซียส ถึง 27 องศาเซลเซียส
  • เวลา: ช้ากว่าเวลาประเทศไทย 12 ชั่วโมง
  • สกุลเงิน: เปโซโคลอมเบีย (COP) โดยมีอัตราเเลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 บาท เท่ากับ 81.64 เปโซโคลอมเบีย
  • ภาษา: ภาษาทางราชการ คือ ภาษาสเปน เเต่ในเเหล่งท่องเที่ยวก็สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้พอสมควร
  • เอกสาร: ควรพกเอกสารอย่างพาสปอร์ตติดตัวตลอดเวลาท่องเที่ยวในโคลอมเบีย
  • สุขภาพ: ควรนำยารักษาประจำตัวตามทะเบียนยาที่อนุญาตให้นำเข้าประเทศโคลอมเบีย เเละซื้อประกันการเดินทางที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลเอาไว้ด้วย

เทศกาลสำคัญของประเทศโคลอมเบีย

มีเทศกาลมากมายในโคลอมเบียที่ได้รับความนิยมเเละมีความงดงามจนเป็นที่กล่าวขวัญถึงกันอย่างมาก เเละมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเเวะเวียนมาเที่ยวชมความสวยงามของเเต่ละเทศกาลเป็นอย่างยิ่ง

Image result for เทศกาลคาร์นิวัล

เทศกาลคาร์นิวัลแห่งเมืองบาร์รังกียา

เป็นงานเทศกาลชื่อดังอีกงานของโคลอมเบีย โดยเป็นงานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่รองจากที่ริโอ เดอ จาเนโร โดยในเเต่ละปีนั้นจะมีผู้เข้ามาร่วมงานกว่าหนึ่งล้านคน โดยมีความคึกคักเเละอลังการจากเครื่องหายของผู้เข้าร่วมขบวนพาเหรดจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ อีกด้วย

Image result for เทศกาลดอกไม้เมืองเมเดยิน

เทศกาลดอกไม้เมืองเมเดยิน

จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมหรือต้นเดือนสิงหาคมเป็นประจำทุกปี โดยเป็นเทศกาลที่มีมากว่า 60 ปีเเล้วโดยจะมีการประกวดไม้ดอกไม้ประดับ เเละมีขบวนเเห่ดอกไม้ที่มีความสวยงามเเละยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก โดยในเเต่ละปีจะมีการจัดงาน 5-7 วันด้วยกัน ทำให้บรรยากาศของเมืองเมเดยินนั้นมีความสวยงามของดอกไม้เป็นอย่างยิ่ง

Image result for เทศกาลแบล็คส์ แอนด์ ไวท์ส

เทศกาลแบล็คส์ แอนด์ ไวท์ส

จัดขึ้นที่เมืองปาสโต ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโคลอมเบีย ในช่วงเดือนมกราคม โดยผู้ร่วมงานจะมีการสวมชุดโทนสีขาวดำออกมาร่วมขบวนพาเหรด โดยเป็นการสื่อถึงสัญลักษณ์ของความเป็นหนึ่งเดียวกัน หรือความเท่าเทียมกันนั่นเอง นับว่าเป็นเทศกาลที่มีความน่าสนใจอีกเทศกาลของโคลอมเบีย

อารีปัส (Arepas)อาหารประเทศโคลอมเบีย

อารีปัส (Arepas) ถือกำเนิดขึ้นในทวีปอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในประเทศโคลัมเบียและเวเนซุเอลาจะกินอาหารชนิดนี้กันทุกมื้อ อารีปัสทำมาจากแป้งข้าวโพดที่ปิ้งจนสุก (โคลัมเบีย) หรือทอดและอบ (เวเนซุเอลา) อารีปัสสามารถกินเปล่าๆ เลยก็ได้ แต่ก็มักจะสอดไส้รสชาติแสนอร่อยต่างๆ ไว้ด้วย

ส่วนประกอบ

– แป้งข้าวโพด (maize flour) 2 ถ้วยตวง / 235 กรัม
– น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง/ 250 มิลลิลิตร
– เกลือหนึ่งหยิบมือ
– น้ำมัน

ขั้นตอนการทำอารีปัส

1. ผสมส่วนผสมต่างๆ เข้าด้วยกัน. ใส่แป้งข้าวโพดและเกลือหนึ่งหยิบมือในชามผสมขนาดใหญ่ ใช้นิ้วหรือที่ตีคนส่วนผสมให้เข้ากัน นำน้ำที่ตวงไว้ค่อยๆ เทลงไปในแป้ง

2. นวดแป้งโด. ใช้มือนวดแป้งและน้ำเข้าด้วยกันจนตัวแป้งอ่อนนุ่ม นวดไปเรื่อยๆ จนกว่าแป้งโดจะไม่มีเม็ดหยาบๆ เป็นก้อนและสามารถปั้นเป็นลูกได้โดยที่แป้งไม่แตก

3. ปั้นอารีปัส. หยิบแป้งโดขึ้นมาหนึ่งกำมือแล้วปั้นเป็นลูกกลมๆ จากนั้นใช้ฝ่ามือกดให้แป้งกลายเป็นรูปพายขนาดใหญ่ แป้งโดนี้ควรจะหนาประมาณครึ่งนิ้วและกว้างประมาณ 3-4 นิ้ว ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากจะให้อารีปัสมีขนาดแค่ไหน วางอารีปัสที่ปั้นแล้วลงบนแผ่นรองอบแล้วปั้นอารีปัสที่เหลือต่อจนแป้งหมด

4. ใช้ตะแกรงที่สามารถยกอารีปัสขึ้นมาเหนือตัวทำความร้อนของเตาอบประมาณ 2.5 ซม.เพื่อทำแบบโคลัมเบีย

5. หากจะทำแบบเวเนซุเอลา เตรียมพร้อมโดยการวอร์มเตาอบให้ร้อนถึง 250°C/480°F.ก่อนที่จะนำอารีปัสไปทอด และเตาอบควรร้อนเต็มที่ก่อนจะนำอารีปัสไปอบ

6. ทอดอารีปัส. ตั้งน้ำมันปริมาณเล็กน้อยให้ร้อนในกระทะเหล็กขนาดใหญ่หรือในกระทะสำหรับทอดโดยใช้ไฟปานกลาง เมื่อน้ำมันร้อนแล้วให้นำอารีปัสมาทอดในกระทะประมาณ 3-4 นาที จนด้านนั้นกรอบ แล้วพลิกอีกด้านเพื่อทอดจนกรอบกลายเป็นสีน้ำตาลทอง จากนั้นนำอารีปัสที่ทอดแล้วมาวางบนแผ่นรองอบแล้วทอดอารีปัสต่อจนหมด

7. อบอารีปัส. ทันทีที่ทอดอารีปัสและวางบนแผ่นรองอบเรียบร้อยแล้วให้นำเข้าเตาอบที่วอร์มเตรียมไว้ใช้เวลาอบ 15 นาที ส่วนวิธีดูว่าอารีปัสสุกดีหรือยัง ให้คุณนำอารีปัสออกจากเตาแล้วแตะด้านบนของอารีปัส หากคุณรู้สึกกลวงๆ เหมือนกับไม่มีอะไรอยู่ข้างใน นั่นแสดงว่าอารีปัสได้ที่แล้ว

8. หั่นอารีปัส. ใช้มีดคมหั่นครึ่งอารีปัสตามยาว จากนั้นใส่ไส้อารีปัสด้วยไส้ที่คุณชื่นชอบ เพียงเท่านี้อารีปัสก็พร้อมทานแล้ว.

วิธีทำไส้อารีปัส

1. ทำไส้สำหรับเป็นมื้อเช้า. ในประเทศเวเนซุเอลาอารีปัสมักมีไส้แฮมและชีสสำหรับกินเป็นอาหารเช้า เลือกใช้สลัดแฮมรสเผ็ด (Deviled ham salad) หรือแฮมรมควันแล้วนำมาจับคู่กับชีสอย่างกัวยาเนส (Guayanes) ไปซา (Paisa) หรือดูโร (Duro)

2. ทำไส้สำหรับเป็นอาหารว่าง. ส่วนใหญ่แล้วอารีปัสสามารถกินเปล่าๆได้เลยหรือกินกับไส้ง่ายๆ อย่างชีสเพื่อเป็นอาหารว่าง สำหรับอาหารว่างที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น ให้ลองทำหนึ่งในไส้แสนง่ายเหล่านี้

3. ทำอารีปัส de Pabellón. De Pabellón. เป็นอาหารของเวเนซุเอลาที่ขึ้นชื่อรองจากอารีปัส การนำอาหารทั้งสองชนิดนี้มาผสมผสานกันจึงเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ อารีปัส de Pabellón มีส่วนผสมดังนี้
เนื้อวัวชิ้นหรือเนื้อวัวฉีก ถั่วดำ และกล้วยทอด สำหรับสูตรดั้งเดิมจริงๆ
โปะไข่ดาวและชีสด้านบนเนื้อวัว ถั่วดำ และกล้ายทอดเพื่อความอร่อยแบบขั้นสุด

แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของประเทศโคลอมเบีย

ประเทศโคลอมเบีย (Colombia) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐโคลอมเบีย มีขนาดประมาณ 2 เท่าของประเทศไทย ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของทวีปอเมริกาใต้จึงเป็นช่องทางการค้าสำคัญมาตั้งแต่ยุคอาณานิคม โดยมีเมืองคาตาเฮน่าเป็นเมืองสำคัญ และเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างทวีปอเมริกาเหนือกับอเมริกาใต้

สภาพภูมิศาสตร์ของโคลอมเบีย แบ่งเป็น 5 เขต คือ เขตชายฝั่งแปซิฟิก (เมืองสำคัญ คือ บารังคิล่าและคาตาเฮน่า) เขตเทือกเขาแอนดีส ซึ่งเป็นเขตประชากรหนาแน่น (เมืองสำคัญ คือ โบโกต้า เมเดลิน และกาลี), เขตทุ่งหญ้าที่ราบเขตป่าแอมะซอน และ เกาะต่างๆ เห็นได้ว่ามีความหลากหลายมากๆ ชายหาดก็สวย มีภูเขาสูง ภูเขาไฟ ป่าดงดิบ ไร่กาแฟ ฯลฯ

ทีนี่มาดูกันดีกว่าว่าประเทศนี้มีอะไรน่าเที่ยว มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง ขอบอกครบถ้วนทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และ วัฒนธรรม

Image result for Bogota

1. กรุงโบโกต้า (Bogota) เมืองหลวงของประเทศที่เก่าแก่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 5 ศตวรรษ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโคลอมเบีย อากาศหนาวเย็นตลอดปีเพราะตั้งอยู่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 2,600 เมตร เมื่อมาถึงเมืองหลวงโบโกต้าต้องไม่พลาดที่จะมาเดินเล่นที่ ย่านแคนเดอลาเรีย (La Candelaria) ย่านประวัติศาสตร์ที่ได้มีการรักษาและบูรณะอาคารและสิ่งก่อสร้างเก่าแก่นับร้อยปี รวมถึงโบสถ์ที่มีอายุกว่า 400 ปีอย่างโบสถ์ซานฟรานซิสโก (San Francisco Church)

Image result for Monserrate

2. ยอดเขามองเซอร์รัต (Monserrate) เป็นเทือกเขาที่สูงกว่า 3,152 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวง บนยอดเขามีโบสถ์เก่าแก่ และถือได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในเมืองโบโกต้า การไปเที่ยวยอดเขาแห่งนี้ต้องขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไป

Image result for Gold Museum – El Museo del Oro

3. พิพิธภัณฑ์ทองคำ (Gold Museum – El Museo del Oro) เป็นพิพิธภัณฑ์ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในจัดแสดงเครื่องใช้ เครื่องประดับ และข้าวของที่ทำจากทองคำในช่วง Pre-Hispanic มีชิ้นงานล้ำค่าจัดแสดงกว่า 55,000 ชิ้น นอกจากนี้ที่ชั้นสองและชั้นสามของพิพิธภัณฑ์ยังจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในอดีตที่ขุดพบในโคลอมเบียซึ่งบอกเล่าถึงวัฒนธรรมและการดำรงชีวิตของชนเผ่าพื้นเมืองในอดีต

Image result for Salt Cathedral of Zipaquira

4. วิหารเกลือซีปากีรา (Salt Cathedral of Zipaquira) ตั้งอยู่ที่เมือง ซิปปาคิวล่า (Zipaquira) วิหารเกลือแห่งนี้เจาะเข้าไปภายในเหมืองเกลือใต้ดินลงไปประมาณ 200 เมตร โดยแรกเริ่มเป็นแค่อุโมงค์เหมืองเกลือธรรมดาแต่คนงานเหมืองกันพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้เป็นสถานที่สำหรับสวดมนต์เพื่ออ้อนวอนพระเจ้าให้คุ้มครองระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเหมือง ภายในมืดและตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นกำมะถัน เมื่อเดินเข้าไปตามทางแคบๆ จะเห็นแท่นบูชาตั้งอยู่สุดปลายทาง วิหารแห่งนี้สูง 22 เมตร ภายในจุคนได้ถึง 8,000 คน ปัจจุบัน เหมืองเกลือแห่งนี้ไม่ได้ผลิตเกลือแล้ว เหลือเพียงแต่วิหารไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว

Image result for ไร่กาแฟโคลอมเบีย

5. ไร่กาแฟที่เมืองฟูซาซูกา (Fusagasuga) ถ้าไปถึงโคลอมเบียแล้วต้องไปเยือนไร่กาแฟและชมกระบวนการผลิตกาแฟให้ได้ เพราะประเทศนี้ผลิตกาแฟเพื่อส่งออกมากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก บราซิล และเวียดนาม กาแฟที่มีชื่อคือ ซูรีโม (Suremo) เป็นกาแฟอาราบิก้าที่รสชาติดี ผ่านกรรมวิธีการล้างโดยวิธีแบบเปียก ไม่มีรสเปรี้ยว ผสมโดย “สตาร์บัค”

เมืองฟูซาซูกาเป็นเมืองเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่สมัยอาณานิคม ไร่กาแฟที่เมืองนี้อยู่บนเทือกเขาที่มีอากาศเย็นตลอดปีเนื่องจากอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,765 เมตร

Image result for Carnival of Barranquilla

6. งานคาร์นิวัลแห่งเมืองบาร์รังกียา (Carnival of Barranquilla) ขบวนแห่ในเทศกาลของชาวคาทอลิคที่ยิ่งใหญ่รองจากที่เมืองริโอฯ แต่ละปีมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1,500,000 คน ถือได้ว่าเป็นงานคาร์นิวัลที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลกจนองค์การยูเนสโก้ (UNESCO) ยกย่องให้เป็น “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” เมื่อปี 2003

เมืองบาร์รังกียา (Barranquilla) เป็นเมืองท่าอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ใกล้กับทะเลแคริบเบียน สามารถเดินเที่ยวชมสถาปัตยกรรมแบบอาร์ทเดคโค่ (Art Deco) และสถานที่สำคัญๆ ของเมือง

Image result for Cartagena

7. เมืองคาร์ตาเฮนา (Cartagena) ประตูสู่แคริบเบี้ยนใต้ นับได้ว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งของทวีปอเมริกาใต้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในปีค.ศ 1984 ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของโคลอมเบียเพราะเป็นเมืองท่าจอดเรือสำราญล่องทะเลแคริบเบี้ยน นอกจากมี ชายหาดโบกาเกรนเด้(Bocagrande) อันขึ้นชื่อแล้ว ยังมี เกาะโรซาริโอ (Rosario Islands), เขตเมืองเก่าแห่งการ์ตาเคนา (Old Town), หอคอยโตเร เด เรลอค (Torre de Reloj) ซึ่งเป็นหอนาฬิกาที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองการ์ตาเคนา, ย่านเคทเซมานี (Getsemaní), จตุรัสปลาซ่า เดซาน เปโดร (Plaza de San Pedro) จตุรัสที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง, รูปปั้นหญิงอ้วน (La gordita) รังสรรค์โดยศิลปินชาวโคลอมเบียที่มีชื่อเสียงระดับโลก, มหาวิหารแห่งเมืองการ์ตาเคนา (Catedral de Cartagena) มหาวิหารที่สำคัญที่สุดของเมือง เป็นต้น

Image result for The River of the Five Colors

8. แม่น้ำ 5 สี (The River of the Five Colors) ได้รับการยกย่องว่าเป็นแม่น้ำที่สวยที่สุดในโลก รู้จักกันในชื่อ “แม่น้ำคาโญ่ คริสตาเลส” (Caño Cristales) ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Serranía de la Macarena ในเมือง ลา มาการีนา (La Macarena) จริงๆ แล้วสีที่มองเห็นโดยเฉพาะสีแดง สีชมพู และสีเขียวเกิดจากพืชใต้น้ำ คือ หญ้ามอสและสาหร่ายที่เจริญเติบโตบนหินและบริเวณน้ำตกหรือที่ๆ น้ำไหลแรงในแม่น้ำตื้นๆ จึงทำให้มองเห็นว่าแม่น้ำมีหลายสี แม่น้ำ 5 สีจะสวยงามที่สุดในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน

 

หนุนการใช้ภาษีบุหรี่-เหล้า-น้ำตาล ของโคลอมเบีย

ประเทศโคลอมเบียมีการขึ้นภาษียาสูบ (โดยขึ้นภาษีเฉพาะตามปริมาณยาสูบถึง 200% และยังกำหนดให้จัดเก็บเพิ่มขึ้นอีก 4% ต่อปี ตามภาวะเงินเฟ้อ) ผลคือ การสูบบุหรี่ลดลงถึง 23% ทันทีในปี 2560 ขณะที่รายได้จากภาษีบุหรี่ก็เพิ่มขึ้นถึง 54% โดยปีเดียวกันยังมีการปรับมาตรการภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยการจัดเก็บภาษีในอัตรา 25% ซึ่งรวมภาษีตามมูลค่าของสินค้าและภาษีเฉพาะที่จัดเก็บตามดีกรีแอลกอฮอล์ ทำให้รายได้การจัดเก็บภาษีจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นจาก 195 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 301 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 17% ในปี 2560 ย้อนขึ้นไปที่อเมริกาเหนือ

Related image

ประเทศเม็กซิโกมีการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มผสมน้ำตาลที่ให้ผลลัพธ์น่าสนใจ ซึ่งพบว่าในปี 2557 มีการจัดเก็บภาษี 0.064 เหรียญสหรัฐต่อลิตร ทำให้ผู้บริโภคน้ำอัดลมและเครื่องดื่มผสมน้ำตาลลดลงได้ 16% นอกจากนี้ยังพบว่ารัฐสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้นซึ่งคิดเป็น 25% ของค่าใช้จ่ายที่เกิดจากโรคอ้วน

รสชาติกาแฟโคลัมเบีย

รสชาติกาแฟโคลัมเบีย กาแฟโคลัมเบียมีรสชาติเยอะมาก จากกาแฟที่หนักและมีรสช็อคโกแลตไปจนถึงกาแฟที่หวานและคล้ายผลไม้และแยม โดยรสชาติที่มีมากมายนั้นเกิดขึ้นในทุกภูมิภาคที่ผลิตของกาแฟ

Image result for รสชาติกาแฟโคลัมเบีย

FNC และคุณภาพ

มีความขัดแย้งการระหว่าง FNC กับอุตสาหกรรมกาแฟที่เน้นคุณภาพ เพราะผลประโยชน์ของเกษตรกรตามมุมมองของ FNC อาจไม่ได้นำไปสู่คุณภาพกาแฟที่ดีที่สุด โดย FNC มีแผนกวิจัยที่เรียกว่า Cenicafe ซึ่งจะเพาะพันธุ์กาแฟสายพันธุ์ต่างๆและอาจเชื่อว่าการส่งเสริมกาแฟสายพันธุ์อย่างคาสทิลโล (Castillo) นั้นดีกว่า ซึ่งนั่นเป็นการให้ความสำคัญกับผลผลิตมากกว่าคุณภาพกาแฟในแก้ว ข้อถกเถียงนั้นมีเหตุผลทั้งสองด้าน เพราะสภาพอากาศโลกที่กำลังเปลี่ยนไปนั้นส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของการผลิตกาแฟในโคลอมเบีย ซึ่งมันยากที่จะถียงว่าสายพันธุ์กาแฟที่รับประกันความเป็นอยู่ของผู้ผลิตนั้นไม่ดีแม้ว่ามันจะเสียคุณภาพกาแฟไปก็ตาม

การสืบค้นย้อนกลับ (TRACEABILITY)

FNC ได้คิดคำว่า ‘Sopremo ’และ ‘Excelso’ ขึ้นมาเพื่อส่งเสริมกาแฟโคลอมเบีย คำเหล่านี้สื่อถึงขนาดของเมล็ดกาแฟเท่านั้นและไม่ได้มีความสัมพันธ์กับคุณภาพเลย โชคร้ายที่การจัดประเภทแบบนี้ทำให้การสืบค้นย้อนกลับไม่ชัดเจนเพราะกาแฟที่ขายอาจมาจากหลายๆไร่ และนำมาผสมรวมกันก่อนเข้าเครื่องคัดขนาด นี่เป็นกาแฟทั่วไปซึ่งชื่อของมันไม่ช่วยอะไรเลยหากคุณต้องการซื้อคุณภาพ วงการกาแฟชนิดพิเศษกำลังพยายามรักษาความสามารถในการสืบย้อนกลับ ดังนั้นหากคุณกำลังมองหากาแฟดีๆ ก็ให้หาเมล็ดกาแฟที่มาจากไร่ที่เจาะจงแทนที่จะดูที่ขนาดเมล็ด

Juan Valdez สัญลักษณ์ของกาแฟโคลอมเบีย

โคลอมเบียรู้ว่าการตลาดมีค่าแค่ไหนและเริ่มสร้างแบรนด์ของตัวเองค่อนข้างไว โดยการสร้างตัวละครชื่อ Juan Valdez เกษตรที่เป็นตัวแทนของกาแฟโคลอมเบียในปี 1958 อาจเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลยก็เป็นได้ โดย Juan Valdez กับลาของเขาเป็นสัญลักษณ์ของกาแฟโคคลอมเบียที่สามารถพบได้บนถุงกาแฟและในโฆษณาที่แสดง

Related image

โดยนักแสดงสามคนตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดย Juan Valdez กลายเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่กาแฟโคลอมเบีย ตัวละครนี้ต่อยอดความสำเร็จของวลีทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จ เช่น ‘กาแฟจากขุนเขา’ (Mountain Grown Coffee) และการส่งเสริม ‘กาแฟโคลอมเบีย 100%’ ซึ่งทำให้โคลอมเบียสามารถสร้างความแตกต่างให้กับตัวเองได้ในสายตาของผู้บริโภคทั่วโลกการตลาดนี้เป็นผลงานของ Federacion Nacional de Cafeteros (FNC) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1927

Image result for Juan Valdez

และเป็นองค์กรในประเทศอื่นที่ทำงานทางด้านการส่งออกและการส่งเสริมกาแฟ แต่ก็ไม่มีองค์กรไหนที่จะใหญ่และซับซ้อนเท่า FNC โดยมันก่อตั้งเป็นองค์กรเอกชลไม่แสวงผลกำไรเพื่อปกป้องผู้ผลิตกาแฟและได้รับเงินทุนมาจากภาษีส่งออกกาแฟพิเศษ เนื่องจากโคลอมเบียเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ขององค์กร FNC จึงมีเงินทุนมากมายจนเติบโตเป็นองค์กรขนาดใหญ่และกลายเป็นองค์กรที่ใช้ระบบเจ้าขุนมูลนาย ซึ่งมันอาจเลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้ระบบนี้เพราะทางเทคนิคแล้วตอนนี้ FNC ถูกครอบครองและควบคุมโดยสมาชิกผู้ผลิตกาแฟที่มีกว่า 500,000 คน ในขณะที่ FNC มีบทบาทด้านการตลาดการผลิต และการเงิน แต่มันก็ยังมีบทบาทครอบคลุมไปถึงชุมชนกาแฟมีส่วนในการสร้างพื้นฐานทางสังคม และโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนนชุมชน โรงเรียน และศูนย์สุขภาพ มันยังลงทุนในอุตสาหกรรมอื่นนอกเหนือจากกาแฟ เพื่อช่วยส่งเสริมการพัฒนาและคุณภาพชีวิตในภูมิภาคด้วย

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟของโคลอมเบีย

โคลอมเบีย เป็นประเทศในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาใต้ ถือเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ในอเมริกาใต้ สิ่งที่เป็นภาพลักษณ์ในด้านลบของประเทศนี้ก็คือ สงครามกลางเมืองในโคลอมเบีย ซึ่งเป็นสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อ และยังมีประเด็นความขัดแย้งเรื่องยาเสพย์ติดและการคอรัปชั่นอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม อีกด้านหนึ่งโคลัมเบียเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ ทั้งรากฐานทางศิลปวัฒนธรรม และมีธรรมชาติที่สวยงามรอต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยที่นี่เป็นประเทศเดียวในอเมริกาใต้ที่มีชายฝั่งติดทั้งมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ และทะเลคาริบเบียน นอกจากนี้ ยังมีหุบเขาที่ใช้ปลูกกาแฟ

Image result for กาแฟโคลอมเบีย

กาแฟโคลอมเบียมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก บางส่วนมาจากการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมีตัวละคร Juan Valdez เป็นภาพของเกษตรกรกาแฟโคลอมเบีย เป็นการสร้างโฆษณาให้เป็นรู้จักโดยสภาแห่งชาติของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟโคลอมเบีย

กาแฟโคลัมเบียมีรสชาติเยอะมาก จากกาแฟที่หนักและมีรสช็อคโกแลตไปจนถึงกาแฟที่หวานและคล้ายผลไม้และแยม โดยรสชาติที่มีมากมายนั้นเกิดขึ้นในทุกภูมิภาคที่ผลิตของกาแฟ

โคลอมเบียมีพื้นที่ปลูกกาแฟที่กำกับไว้อย่างชัดเจน และปลูกกาแฟหลากหลายสายพันธุ์ไม่ว่าคุณจะอยากดื่มกาแฟที่กลมกล่อมและหนักหรือกาแฟเบาๆที่มีรสผลไม้ (หรือกาแฟที่อยู่กึ่งกลางระหว่างทั้งสอง) ก็เป็นไปได้ที่จะหากาแฟเหล่านั้นในโคลอมเบีย พื้นที่มักกำหนดโดยสภาพทางภูมิศาสตร์มากกว่าการเมือง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่กาแฟจากต่างพื้นที่จะมีลักษณะที่คล้ายกัน หากคุณชอบกาแฟจากพื้นที่หนึ่ง คุณก็อาจชอบกาแฟจากอีกหลายๆพื้นที่ในโคลอมเบีย ต้นกาแฟในโคลอมเบียให้ผลผลิตปีละสองครั้งคือ ผลผลิตหลัก และผลผลิตรองที่เรียกกันในโคลอมเบียว่า Mitaca

ความร่วมมือด้านวิชาการของไทยกับโคลอมเบีย

ไทยและโคลอมเบียมีความร่วมมือด้านวิชาการในกรอบทวิภาคี โดย Presidential Agency of International Cooperation of Colombia: APC) ของโคลอมเบีย ต้องการร่วมมือกับไทยในหลายสาขา ที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ อาทิ การปลูกพืชทดแทนการปลูกพืชเสพติด การท่องเที่ยว การพัฒนาพลังงานชีวมวล  วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)

Image result for Presidential Agency of International Cooperation of Colombia: APC)

และการพัฒนาศูนย์กลางการแพทย์และพยาบาลและความร่วมมือในกรอบพหุภาคี โดยโคลอมเบียได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมในโครงการกรอบความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกและลาตินอเมริกา (Forum for East Asia and Latin American Cooperation – FEALAC) อาทิ การอบรมหลักสูตร Tourism Management โครงการบัวแก้วสัมพันธ์ ซึ่งเน้นด้านการท่องเที่ยว ประมงและ SMEs การประชุมเชิงปฏิบัติการด้านยาเสพติด โครงการฝึกอบรมด้านการลดความยากจน (Poverty Reduction) การประชุมว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติระหว่างสมาชิก FEALAC เป็นต้น

ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจไทยกับโคลอมเบีย

ไทยและโคลอมเบียมีมูลค่าการค้ารวม 294.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปี พ.ศ.2556 ไทยได้ดุลการค้า 205.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐมูลค่าการส่งออกของไทยไปโคลอมเบีย 249.63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สินค้าส่งออกของไทยไปโคลอมเบีย

  1. รถยนต์
  2. อุปกรณ์และส่วนประกอบ
  3. ผลิตภัณฑ์จากยาง
  4. เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ
  5. ตัวจุดไฟและลูกสูบ
  6. จักรยานยนต์
  7. อุปกรณ์และส่วนประกอบเม็ดพลาสติก
  8. ไหม พรม เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ ผ้าผืน
    เคมีภัณฑ์ ฯลฯ

สินค้านำเข้าของไทยจากโคลอมเบีย

  1. สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
  2. สารเคมี
  3. เหล็กและเหล็กกล้า
  4. อัญมณี เงินและทองคำแท่ง
  5. ผ้า
  6. เวชภัณฑ์และเภสัชภัณฑ์
  7. ผลิตภัณฑ์พลาสติก
  8. สินแร่โลหะ เศษโลหะ
  9. กาแฟชาและเครื่องเทศ
  10. ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง
  11. สบู่ ผงซักฟอกและเครื่องสำอาง
  12. ผักและผลไม้
  13. เครื่องจักรกล
  14. เครื่องจักรไฟฟ้า
  15. กระดาษและผลิตภัณฑ์จากกระดาษ ฯลฯ