สหรัฐกังวลโคลอมเบียมีพื้นที่ปลูกต้นโคคา วัตถุดิบผลิตโคเคนสูงขึ้น

นอกจากที่นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้พบหารือกับประธานาธิบดีอิบัน ดูเก ผู้นำโคลอมเบีย ในประเด็นการแก้ไขปัญหาวิกฤตในเวเนซุเอลานั้น อีกหนึ่งประเด็นที่มีการหารือกันคือเรื่องของการปลูกต้นโคคาในโคลอมเบีย ที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตโคเคน

โดยสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นายพอมเพโอ ระบุว่า มีความกังวลอย่างยิ่งสำหรับการเพิ่มขึ้นของผลิตผลจาก”ใบโคคา” ในโคลอมเบีย ซึ่งใบโคคานี้เป็นวัตถุดิบในการผลิตโคเคน

โดยในการหารือกันทั้งสองระบุว่า จะลดผลิตผลจากต้นโคคาลง 50 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2066

“สหรัฐเป็นกังวลอย่างมากกับการเพิ่มขึ้นของการปลูกต้นโคคา และผลิตผลจากต้นโคคาที่เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ปี 2556 รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นของทั้งสองประเทศ เรารู้ว่าเราต้องลดความต้องการของในประเทศลง และเราต้องทำงานควบคู่กับโคลอมเบียไปด้วยกัน” รมว.ต่างประเทศสหรัฐระบุ

ด้านประธานาธิบดีโคลอมเบียนั้นได้กล่าวขอบคุณสหรัฐในการช่วยเหลือในการปราบปรามยาเสพติด

ซึ่งโคลอมเบียต่อสู้มานานหลายปีเพื่อจัดการกับการผลิตโคเคน โดยสหรัฐฯให้เงินประมาณ 400 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี เพื่อช่วยต่อสู้กับผู้ผลิตและผู้ค้า

ทั้งนี้เมื่อเดือนที่ผ่านมาประธานาธิบดีดูเกระบุว่า ในปี 2561 ได้กำจัดพื้นที่เพาะปลูกพืชผิดกฎหมายไปมากกว่า 800 ตารางกิโลเมตร และในปี 2562 รัฐบาลตั้งเป้าที่จะกำจัดอีก 1,000 ตารางกิโลเมตร

รายงานขององค์กรสหประชาชาติเปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า จำนวนพื้นที่เพราะปลูกต้นโคคาในโคลอมเบียเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยเมื่อปลายปี 2560 พื้นที่ปลูกต้นโคคาในโคลอมเบียได้เพิ่มขึ้น 1,710 ตารางกิโลเมตร มากกว่าปี 2559 17 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้โคลอมเบียเป็นประเทศผู้ผลิตโคเคนรายใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่สหรัฐเป็นประเทศผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลก