ชาวโคลอมเบียเลือกตั้งนายกเทศมนตรีหญิงเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นครั้งแรกในกรุงโบโกตาหลังการลงนามข้อตกลงสันติภาพในปี 2559 คลอเดีย โลเปซ เป็นนายกเทศมนตรีหญิงคนแรกและเป็นคนรักเพศเดียวกันคนแรกที่ได้เข้ามาดำรงตำแหน่ง เธอมีภาพลักษณ์เป็นฝ่ายซ้ายที่ฉะกับนักการเมืองหัวอนุรักษ์อย่างตรงไปตรงมาและมีจุดยืนต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันมายาวนาน แต่ก็มีเสียงที่บอกว่าเธอหุนหันพลันแล่นเกินไป
29 ต.ค. 2562 คลอเดีย โลเปซ หญิงอายุ 49 ปี คือผู้ชนะการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีกรุงโบโกตา เมืองหลวงประเทศโคลอมเบียซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา คลอเดียสังกัดพรรคกรีนอะไลอันซ์ เคยดำรงตำแหน่งเป็น ส.ว. และเคยเป็นผู้แทนลงเลือกตั้งรองประธานาธิบดีในปี 2561 นอกจากนี้ยังเป็นนายกเทศมนตรีหญิงคนแรกและเป็นคนรักเพศเดียวกันคนแรกที่ได้รับตำแหน่งที่ถือว่าสำคัญเป็นอันดับที่สองรองลงมาจากประธานาธิบดี
อาร์ลีน ทิคเนอร์ ศาตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโรซาริโอกล่าวว่า ชัยชนะของโลเปซถือเป็นประวัติศาสตร์ในหลายระดับ ทั้งเรื่องที่เธอเป็นผู้หญิงคนแรกและคนรักเพศเดียวกันคนแรกที่ชนะการเลือกตังนายกเทศมนตรีในโคลอมเบีย และเรื่องที่เธอเป็นคนที่ต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชันมายาวนานทำให้ชัยชนะของเธอน่าจะเป็นเสียงที่สร้างความฮึกเหิมให้กับเจ้าหน้าที่ทางการคนอื่นๆ ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาในโคลอมเบียร่วมมือกับเธอ
การเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาถือเป็นการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่มีการลงนามข้อตกลงสันติภาพร่วมกันระหว่างกลุ่มกบฏ FARC กับรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการปิดฉากความขัดแย้งที่มีมายาวนาน 52 ปี
โลเปซชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 35 เป็นนักการเมืองที่มีภาพลักษณ์เป็นคนโผงผางและหุนหันพลันแล่น เธอเป็นคนที่แสดงการต่อต้านนักการเมืองฝ่ายขวาจัดอย่างหนักแน่นทำให้เธอได้คะแนนนิยมจากประชาชนฝ่ายซ้ายและสายกลาง อย่างไรก็ตามความคิดเห็นของประชาชนทั่วไปที่มีต่อการดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของเธอนั้นมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
ไฮเด คาลดาส เจ้าของร้านค้าอายุ 69 ปีบอกว่าโลเปซไม่น่าจะใช่ทางเลือกที่ดีเพราะเธอมีความหุนหันพลันแล่นมีความคิดกลับไปกลับมาไม่แน่นอน ขณะที่ครูอายุ 44 ปี ปิอา กีโรกา ผู้ลงคะแนนให้โลเปซบอกว่าเธอเป็นคนที่จะสามารถจัดการเมืองได้ดีและมีการทุจริตน้อย
ทั้งนี้ก็มีกลุ่มคนที่ชื่นชมโลเปซในฐานะที่เธอเป็นนักการเมืองหญิงรักหญิงคนแรกที่เปิดเผยในเรื่องนี้ เธอและคู่รักของเธอคือแองเจลิกา โลซาโน ต่างก็เป็นนักการเมืองพรรคเดียวกันที่มีส่วนช่วยสนับสนุนรณรงค์ประเด็น LGBT ทั้งคู่ โจฮานา รินกง ครูอายุ 29 ปี บอกว่าในฐานะที่เธอเป็นหญิงเลสเบี้ยนคนหนึ่ง เธอรู้สึกว่าความหลากหลายทางเพศของโลเปซเป็นสิ่งที่ดีต่อโบโกตาและโคลอมเบีย
ประชาชนบางส่วนมองว่าถึงแม้วโลเปซจะเป็นคนที่ “มีเรื่องอื้อฉาวเล็กๆ น้อยๆ” และ “มีปฏิกิริยาโต้ตอบแรงไปหน่อย” แต่ก็มีคนชื่อชอบที่เธอเป็นคนตรงไปตรงมาทำให้รู้สึกว่า “สิ่งที่คุณเห็นคือสิ่งที่คุณจะได้รับ”
โลเปซเคยวิพากษ์อดีตประธานาธิบดีสายอนุรักษ์นิยม อัลวาโร อูริเบ ในสภาว่าเป็น “ปลิงที่วิ่งหนีลงท่อระบายน้ำ”
อูริเบแสดงการยอมรับชัยชนะของโลเปซผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “พวกเราพ่ายแพ้ ผมยอมรับความพ่ายแพ้นี้ด้วยความถ่อมตน การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไม่มีวันจบสิ้น”
โลเปซเคยต้องหนีออกจากโคลอมเบียชั่วคราวในปี 2556 หลังจากถูกขู่ฆ่าจากการที่เธอทำการศึกษาวิจัยเรื่องบทบาทของกองกำลังผสมทหารตำรวจในการเมืองโคลอมเบีย เธอเป็นคนที่พยายามต่อต้านการทุจริตคอรัปชันในโคลอมเบียมาเป็นเวลายาวนานและในเดือน ส.ค. 2561 เธอก็พยายามผ่านร่างกฎหมายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
เซอร์จิโอ กุซมาน นักวิเคราะห์การเมืองกล่าวว่าโลเปซเป็นคนที่พูดในเชิงต่อต้านการทุจริตอย่างหนักแน่นมากและประเด็นนี้จะกลายมาเป็นหัวใจหลักของการบริหารของเธอ นอกจากนี้การที่เธอชนะการเลือกตั้งยังถือเป็นข่าวดีสำหรับขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองทางเลือกที่สามารถแสดงให้เห็นจุดยืนทางอุดมการณ์ที่หนักแน่นกว่าพรรคการเมืองแบบดั้งเดิม